เกลานียาราชมหาวิหาร
วัดกัลณียา ชื่อเต็มว่า เกลานียาราชมหาวิหาร (Kelaniya Raja Maha Viharaya) ถือเป็นวัดประจำเมืองที่ชาวศรีลังกาให้ความเคารพอย่างสูงสุด เป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อ 1,900 กว่าปีที่แล้ว โดยชาวศรีลังกาเชื่อว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันต์ที่เป็นสาวกอีก 500 รูป ได้เคยเสด็จมายังวัดแห่งนี้ในวันวิสาขบูชา ในบริเวณวัดมีพระเจดีย์ทรงระฆังคว่ำสีขาวขนาดใหญ่ ซึ่งเชื่อว่าเป็นพระเจดีย์ที่บรรจุพระแท่นบัลลังก์ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับเมื่อคราวมาโปรดพญานาคมณีอัคขิกะและบริวาร จุดเด่นที่สำคัญของวัดคือพระวิหาร ซึ่งประกอบด้วยพระนอน ห้องประดิษฐานพระสารีริกธาตุ และภาพจิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ศิลปินชื่อดังของศรีลังกาได้อุทิศเวลากว่า 20 ปีในการสรรค์สร้างภาพจิตรกรรมที่งดงาม



วัดพระเขี้ยวแก้ว หรือ วัดศรีทัลฒามัลลิกาววิหาร หรือวัดดาลดามัลลิกาวะ (Dalada Maligawa)
เป็นวัดในพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท สร้างโดยพระเจ้าวิมลธรรมสุริยะที่ 1 พระมหากษัตริย์ในราชวงศ์สุดท้ายของประเทศศรีลังกา โดยตัววัดตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังโบราณ เป็นที่ประดิษฐานพระทันตธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือพระเขี้ยวแก้ว เบื้องต่ำขวาของพระพุทธเจ้า ซึ่งผู้มาเที่ยวศรีลังกาต่างพากันหลั่งไหลเพื่อมาสักการะพระเขี้ยวแก้วให้เป็นศิริมงคลกัน ปัจจุบันวัดพระเขี้ยวแก้ว เป็นวัดที่อยู่ในความดูแลของพระมหาสังฆนายก สยามวงศ์ ซึ่งมีอยู่สองฝ่าย โดยจะแบ่งกันปกครองรักษาพระเขี้ยวแก้วสลับกันทุกปี และพระสงฆ์จะกระทำพุทธบูชาเป็นประจำทุกๆ วันในช่วงเช้า เที่ยง และเย็น นอกจากนี้วัดนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกอีกด้วย ทัวร์ศรีลังกา



วัดอรุวิหาร (Aluvihara Temple)
หรือที่เรียกกันว่า อโรคาวิหาร (วัดที่ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ) เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีการสอนพระพุทธศาสนาจากพระไตรปิฎก ซึ่งในสมัยอดีตกาล พระไตรปิฎกจะถูกจารึกลงบนใบลาน จนกระทั่งต่อมาได้เปลี่ยนให้มีการจารึกออกมาเป็นพระไตรปิฎกฉบับหนังสือ และพระพุทธโฆษาจารย์จากประเทศอินเดียได้เดินทางมาสืบพระไตรปิฎก ได้มีการแปลภาษาจากภาษาสิงหลเป็นภาษาบาลี ทำให้มีคัมภีร์พระพุทธศาสนาสืบทอดต่อมาให้พุทธศาสนิกชนได้เรียนรู้หลักธรรมของศาสนาพุทธจนถึงทุกวันนี้